วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ธรรมะประจำวันจาก ๔ สงฆ์ผู้นำการเปลี่ยนแปลงของไทย

ธรรมะประจำวันจาก ๔ สงฆ์ผู้นำการเปลี่ยนแปลงของไทย


เช้าวันนี้ อากาศดี...
ยังคุยกันในเน็ตอยู่เลยว่า
"วันอังคาร" คือวันที่คนทำงาน Active ที่สุด

ตกบ่ายๆ...อ้าว! ฝนตกอีกและ...
ตกไปจนถึงช่วงกลางคืนเลย

เดาได้เลยใช่ไหมครับว่า "อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อฝนตกในกรุงเพฯและปริมณฑล?"
ถูกต้องนะครับ... "รถติด"!...



สำหรับผมแล้ว วันนี้อิ่มใจ อิ่มบุญครับ
ได้ฟังธรรมะจากพระอาจารย์ถึง ๔ รูป
จัดว่าเป็นระดับแนวหน้า...
หรือผู้นำการเปลี่ยงแปลงของสังคมไทยเลยทีเดียว

๑. พระอาจารย์พุทธทาส
     ท่านพุทธทาสได้เทศน์ถึงเรื่อง "การทำหน้าที่"
      "ทุกอย่าง" ต้องมีหน้าที่ที่จะต้องทำตามหน้าที่
      ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือ "พระพุทธเจ้า" ก่อนพระองค์จะปรินิพพาน พระองค์ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ถึงวินาทีสุดท้าย ถึงกับได้พระอรหันต์หนึ่งองค์เลยทีเดียว
     (การแสดงธรรมบทนี้ ท่านพุทธทาส แสดงอย่างถึงพริกถึงขิงจริงๆครับ น่าฟังมากๆ...)

๒. พระอาจารย์ธรรมปิฎก
    พระอาจารย์ได้แสดงถึงเรื่อง "การดิ้นรนต่อสู้" ไม่ยอมแพ้
     โดยยกกรณีศึกษาจาก "อเมริกัน" ที่หนีมาจากยุโรป มีทางเดียวที่จะรอดคือ ขึ้นบกที่ทวีปใหม่แห่งนี้ ไม่รู้ชะตากรรม แต่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตให้รอด จนสืบสานเป็นลักษณะนิสัยของชนชาวอเมริกันมาถึงทุกวันนี้
    คำสามคำที่จำติดหัวมาจากการแสดงธรรมของพระอาจารย์วันนี้ คือ...
     Freedom = อิสรภาพที่พวกเขาแสวงหา
     Opportunity = โอกาสหรือความหวังของชีวิตพวกเขาที่มีเสมอ
     Frontier = เขตแดนใหม่ที่จะทำให้ชีวิตพวกเขา "ดีกว่า" เดิมๆ

    ซึ่งจะแตกต่างจากคนไทย ที่ "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" ไม่ต้องดิ้นรนอะไร
    ดังนั้น คนไทยเราเองต้องมีกุศโลบายในการปฏิบัติตนไม่ให้เฉื่อย

๓. ท่านเจ้าคุณปัญญานันทภิกขุ
     พระอาจารย์ปัญญาฯท่านแสดงถึงว่า คนเราต้องมีจุดยืน ต้องมีความเด็ดเดี่ยว
     อะไรทำแล้วจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาหรือมันไปต้านกับกฎเกณฑ์ของสังคมหรือกฎหมาย
     ก็ต้องยืดมั่นความถูกต้องเอาไว้ ไม่สั่นคลอน ไปตามการยั่วยุ หรือ การตื้อ

๔. พระอาจารย์สนอง(วัดสังฆทาน)
     พระอาจารย์ได้แสดงธรรมถึงเรื่อง "ผลแห่งกรรม" แม้ดูว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่กระทำลงไป
     แต่หากไม่ระมัดระวัง ก็อาจส่งผลขัดขวางทางชีวิตของเราได้ในอนาคตอย่างมากเลยทีเดียว
     ท่านยกตัวอย่างของพระรูปหนึ่ง...
        ในอดีตเคยนึกหัวเราะเยาะคนที่เขาความรู้น้อยกว่า...
        ผลแค่ตรงนั้นเพียงนิดเดียว ส่งผลให้ชาติถัดมา.. "โง่ไปถึง 3 เดือน"...
        ทั้งทั้งที่ตนเองเป็นผู้ที่แตกฉานในพระธรรมตำราอย่างมาก
        จนมาพบพระพุทธเจ้า จึงได้รู้ความจริงแล้วได้รับการแก้ไขจนกลับมาแตกฉานให้คนประจักษ์ได้อีกครั้งหนึ่ง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น