ไปวัดมา...อิ่มอกอิ่มใจจังเจ้า!
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าวัด...
วันนี้ได้มีโอกาสไปบูชาพระให้กับผู้ใหญ่ที่นับถือมากที่สุดท่านหนึ่ง
เดินทางไปด้วยความเต็มใจและอิ่มใจที่ได้ตอบแทนพระคุณท่าน...
........
ถึงวัดใหญ่ ที่พิษณุโลก...เบิกบานใจ
ได้เข้าไปกราบองค์พระ...ตื้นตันและใจตื่น
ได้บูชาพระพุทธชินราช ตามที่ตั้งใจไว้... โดยเรียบร้อย สวัสดี
........
เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯอย่างเบิกบานใจ
"อิ่มอกอิ่มใจดีแท้"...
อ๋อ ขอรับ
Life is everything. Everything is good. I observe.. I feel.. I think.. and I see!
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554
คำพูดสุดยอดจาก "วินัย พันธุรักษ์"
วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554
เมื่อมีอำนาจเพียงแค่ตำแหน่ง ทำไงได้ "บารมี" ไม่พอ...
เมื่อมีอำนาจเพียงแค่ตำแหน่ง ทำไงได้ "บารมี" ไม่พอ...
ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา...
สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง...ดีสำหรับผม...
แต่คงไม่ค่อยดีสำหรับ "คนนั้น"
ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้อย่างหนึ่งว่า...
"อำนาจ" กับ "บารมี" มันต่างกันอย่างนี้นี่เอง!
คนบางคนมีตำแหน่งบริหารสูง
จะเรียกว่ามี "อำนาจ" ก็ได้...ตามตำแหน่ง
ส่วน "บารมี" มีหรือเปล่า...ไม่รู้...ต้องดูกันยาวๆ...ต่อไป
มีคำพูดบางคำที่เขาใช้กับผมว่า.. "สำหรับโครงการที่ผมเสนอนั้น หากเขาจะไม่ให้เกิดขึ้น เขาก็ทำได้นะ"...
ผมเลยมานั่งนึกว่า..
"อ๋อ...ไอ้นี่เหรอที่เขาเรียกว่าอำนาจ"
ใช่ครับ เขากำลังจะใช้อำนาจกับผม...
แต่บังเอิญว่า...โครงการผมมีคนช่วยเยอะ...โครงการก็เลยเดินได้ เกิดขึ้นได้
ผมก็เลยประเมินว่า...มันเกิดได้ก็คงเพราะผมพอจะมี "บารมี" กับพี่ๆน้องๆอยู่บ้าง...
"บารมี"ที่มีอยู่ ก็คงเพราะการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มที่นั่นเองครับผม
ผมได้ประโยชน์บ้าง คนอื่นๆก็ได้ประโยชน์บ้าง...ช่วยกันไป
โครงการก็เดินไปได้ด้วยดี แม้บางเรื่องอาจตะกุกตะกักไปบ้าง
แต่วันนี้...
เริ่มจะได้ "กลิ่นไม่ค่อยดี" บางอย่าง...
คนที่มี "อำนาจ" คงจะรู้สึกว่า เราเอาอำนาจไปหมด (ทั้งที่ผมเองก็ไม่มีอำนาจอะไร)
กำลังจะ "ทวงอำนาจ" คืน...
ก็คงธรรมดาครับ...
"ธรรมชาติมนุษย์" ที่ยังมี รัก โลภ โกรธ หลง กันอยู่
ก็เฉยๆนะครับ...
ว่ากันไปตาม "เนื้อผ้า" สถานการณ์...
ยังยึดถือคำโบราณที่ว่า "คนดี ผีคุ้ม" หรือ "คนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้"...
สำหรับ "อำนาจ" อาจจะทวงคืนได้ครับ...
แต่จะทวง "บารมี" คืน...คงทำไม่ได้หรอกครับผม
อ๋อ ขอรับ
pic from: http://andrewduffycca.files.wordpress.com/2010/01/nervous.jpg
ป้ายกำกับ:
ความรู้สึก,
ชีวิต,
ธรรมะ,
พฤติกรรม,
วิเคราะห์
วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554
meditation song - เพลง "นั่งสมาธิ" สบายๆ เพลินๆ ครับ
meditation song - เพลง "นั่งสมาธิ" สบายๆ เพลินๆ ครับ
ตัวเพลง มาจาก เว็บ "ธรรมจักร ธรรมะออนไลน์" ครับผมhttp://www.dhammajak.net/book-wasin/4.html
อ๋อ ขอรับ
วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ความเป็นเด็ก กับ "เป็นระเบียบ" หรือ "ไร้ระเบียบ" ?
ความเป็นเด็ก กับ "เป็นระเบียบ" หรือ "ไร้ระเบียบ" ?
วันนี้หยิบกระดาษที่ลูกสาววัยไม่ถึงสี่ขวบหัดเขียน "ตัวเลข" ขึ้นมาดู
ใจหนึ่งก็อมยิ้มในใจว่า "อือ... น่ารักดีแฮะ!"
แฝงด้วยความกรุณาในใจเล็กๆว่า
"พยายามเข้านะ เดี๋ยวก็สวยและตรงเส้นบรรทัดเองแหล่ะ..."
อีกมุมหนึ่งของความคิด...
ก็แว๊ปไปคิดว่า...
"เอะ..ถ้าอันนี้เป็นผู้ใหญ่เขียนล่ะ มันสื่อความหรือตีความได้ว่าอะไรบ้าง?"
วันนี้หยิบกระดาษที่ลูกสาววัยไม่ถึงสี่ขวบหัดเขียน "ตัวเลข" ขึ้นมาดู
ใจหนึ่งก็อมยิ้มในใจว่า "อือ... น่ารักดีแฮะ!"
แฝงด้วยความกรุณาในใจเล็กๆว่า
"พยายามเข้านะ เดี๋ยวก็สวยและตรงเส้นบรรทัดเองแหล่ะ..."
อีกมุมหนึ่งของความคิด...
ก็แว๊ปไปคิดว่า...
"เอะ..ถ้าอันนี้เป็นผู้ใหญ่เขียนล่ะ มันสื่อความหรือตีความได้ว่าอะไรบ้าง?"
คำตอบ (แบบว่าตอบตัวเองน่ะครับ) ได้แก่...
๑. มันคงเป็น "ความเบื่อ หรือ เซ็ง" กับอะไรบางอย่างในตอนเขียนแน่ๆ
๒. มันคงเป็น "ความคิดสร้างสรรค์" แน่ๆ
ก็มองได้หลายมุมนะครับผม...
อ๋อ
วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ธรรมะประจำวันจาก ๔ สงฆ์ผู้นำการเปลี่ยนแปลงของไทย
ธรรมะประจำวันจาก ๔ สงฆ์ผู้นำการเปลี่ยนแปลงของไทย
เช้าวันนี้ อากาศดี...
ยังคุยกันในเน็ตอยู่เลยว่า
"วันอังคาร" คือวันที่คนทำงาน Active ที่สุด
ตกบ่ายๆ...อ้าว! ฝนตกอีกและ...
ตกไปจนถึงช่วงกลางคืนเลย
เดาได้เลยใช่ไหมครับว่า "อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อฝนตกในกรุงเพฯและปริมณฑล?"
ถูกต้องนะครับ... "รถติด"!...
สำหรับผมแล้ว วันนี้อิ่มใจ อิ่มบุญครับ
ได้ฟังธรรมะจากพระอาจารย์ถึง ๔ รูป
จัดว่าเป็นระดับแนวหน้า...
หรือผู้นำการเปลี่ยงแปลงของสังคมไทยเลยทีเดียว
๑. พระอาจารย์พุทธทาส
ท่านพุทธทาสได้เทศน์ถึงเรื่อง "การทำหน้าที่"
"ทุกอย่าง" ต้องมีหน้าที่ที่จะต้องทำตามหน้าที่
ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือ "พระพุทธเจ้า" ก่อนพระองค์จะปรินิพพาน พระองค์ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ถึงวินาทีสุดท้าย ถึงกับได้พระอรหันต์หนึ่งองค์เลยทีเดียว
(การแสดงธรรมบทนี้ ท่านพุทธทาส แสดงอย่างถึงพริกถึงขิงจริงๆครับ น่าฟังมากๆ...)
๒. พระอาจารย์ธรรมปิฎก
พระอาจารย์ได้แสดงถึงเรื่อง "การดิ้นรนต่อสู้" ไม่ยอมแพ้
โดยยกกรณีศึกษาจาก "อเมริกัน" ที่หนีมาจากยุโรป มีทางเดียวที่จะรอดคือ ขึ้นบกที่ทวีปใหม่แห่งนี้ ไม่รู้ชะตากรรม แต่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตให้รอด จนสืบสานเป็นลักษณะนิสัยของชนชาวอเมริกันมาถึงทุกวันนี้
คำสามคำที่จำติดหัวมาจากการแสดงธรรมของพระอาจารย์วันนี้ คือ...
Freedom = อิสรภาพที่พวกเขาแสวงหา
Opportunity = โอกาสหรือความหวังของชีวิตพวกเขาที่มีเสมอ
Frontier = เขตแดนใหม่ที่จะทำให้ชีวิตพวกเขา "ดีกว่า" เดิมๆ
ซึ่งจะแตกต่างจากคนไทย ที่ "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" ไม่ต้องดิ้นรนอะไร
ดังนั้น คนไทยเราเองต้องมีกุศโลบายในการปฏิบัติตนไม่ให้เฉื่อย
๓. ท่านเจ้าคุณปัญญานันทภิกขุ
พระอาจารย์ปัญญาฯท่านแสดงถึงว่า คนเราต้องมีจุดยืน ต้องมีความเด็ดเดี่ยว
อะไรทำแล้วจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาหรือมันไปต้านกับกฎเกณฑ์ของสังคมหรือกฎหมาย
ก็ต้องยืดมั่นความถูกต้องเอาไว้ ไม่สั่นคลอน ไปตามการยั่วยุ หรือ การตื้อ
๔. พระอาจารย์สนอง(วัดสังฆทาน)
พระอาจารย์ได้แสดงธรรมถึงเรื่อง "ผลแห่งกรรม" แม้ดูว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่กระทำลงไป
แต่หากไม่ระมัดระวัง ก็อาจส่งผลขัดขวางทางชีวิตของเราได้ในอนาคตอย่างมากเลยทีเดียว
ท่านยกตัวอย่างของพระรูปหนึ่ง...
ในอดีตเคยนึกหัวเราะเยาะคนที่เขาความรู้น้อยกว่า...
ผลแค่ตรงนั้นเพียงนิดเดียว ส่งผลให้ชาติถัดมา.. "โง่ไปถึง 3 เดือน"...
ทั้งทั้งที่ตนเองเป็นผู้ที่แตกฉานในพระธรรมตำราอย่างมาก
จนมาพบพระพุทธเจ้า จึงได้รู้ความจริงแล้วได้รับการแก้ไขจนกลับมาแตกฉานให้คนประจักษ์ได้อีกครั้งหนึ่ง
เช้าวันนี้ อากาศดี...
ยังคุยกันในเน็ตอยู่เลยว่า
"วันอังคาร" คือวันที่คนทำงาน Active ที่สุด
ตกบ่ายๆ...อ้าว! ฝนตกอีกและ...
ตกไปจนถึงช่วงกลางคืนเลย
เดาได้เลยใช่ไหมครับว่า "อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อฝนตกในกรุงเพฯและปริมณฑล?"
ถูกต้องนะครับ... "รถติด"!...
สำหรับผมแล้ว วันนี้อิ่มใจ อิ่มบุญครับ
ได้ฟังธรรมะจากพระอาจารย์ถึง ๔ รูป
จัดว่าเป็นระดับแนวหน้า...
หรือผู้นำการเปลี่ยงแปลงของสังคมไทยเลยทีเดียว
๑. พระอาจารย์พุทธทาส
ท่านพุทธทาสได้เทศน์ถึงเรื่อง "การทำหน้าที่"
"ทุกอย่าง" ต้องมีหน้าที่ที่จะต้องทำตามหน้าที่
ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือ "พระพุทธเจ้า" ก่อนพระองค์จะปรินิพพาน พระองค์ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ถึงวินาทีสุดท้าย ถึงกับได้พระอรหันต์หนึ่งองค์เลยทีเดียว
(การแสดงธรรมบทนี้ ท่านพุทธทาส แสดงอย่างถึงพริกถึงขิงจริงๆครับ น่าฟังมากๆ...)
๒. พระอาจารย์ธรรมปิฎก
พระอาจารย์ได้แสดงถึงเรื่อง "การดิ้นรนต่อสู้" ไม่ยอมแพ้
โดยยกกรณีศึกษาจาก "อเมริกัน" ที่หนีมาจากยุโรป มีทางเดียวที่จะรอดคือ ขึ้นบกที่ทวีปใหม่แห่งนี้ ไม่รู้ชะตากรรม แต่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตให้รอด จนสืบสานเป็นลักษณะนิสัยของชนชาวอเมริกันมาถึงทุกวันนี้
คำสามคำที่จำติดหัวมาจากการแสดงธรรมของพระอาจารย์วันนี้ คือ...
Freedom = อิสรภาพที่พวกเขาแสวงหา
Opportunity = โอกาสหรือความหวังของชีวิตพวกเขาที่มีเสมอ
Frontier = เขตแดนใหม่ที่จะทำให้ชีวิตพวกเขา "ดีกว่า" เดิมๆ
ซึ่งจะแตกต่างจากคนไทย ที่ "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" ไม่ต้องดิ้นรนอะไร
ดังนั้น คนไทยเราเองต้องมีกุศโลบายในการปฏิบัติตนไม่ให้เฉื่อย
๓. ท่านเจ้าคุณปัญญานันทภิกขุ
พระอาจารย์ปัญญาฯท่านแสดงถึงว่า คนเราต้องมีจุดยืน ต้องมีความเด็ดเดี่ยว
อะไรทำแล้วจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาหรือมันไปต้านกับกฎเกณฑ์ของสังคมหรือกฎหมาย
ก็ต้องยืดมั่นความถูกต้องเอาไว้ ไม่สั่นคลอน ไปตามการยั่วยุ หรือ การตื้อ
๔. พระอาจารย์สนอง(วัดสังฆทาน)
พระอาจารย์ได้แสดงธรรมถึงเรื่อง "ผลแห่งกรรม" แม้ดูว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่กระทำลงไป
แต่หากไม่ระมัดระวัง ก็อาจส่งผลขัดขวางทางชีวิตของเราได้ในอนาคตอย่างมากเลยทีเดียว
ท่านยกตัวอย่างของพระรูปหนึ่ง...
ในอดีตเคยนึกหัวเราะเยาะคนที่เขาความรู้น้อยกว่า...
ผลแค่ตรงนั้นเพียงนิดเดียว ส่งผลให้ชาติถัดมา.. "โง่ไปถึง 3 เดือน"...
ทั้งทั้งที่ตนเองเป็นผู้ที่แตกฉานในพระธรรมตำราอย่างมาก
จนมาพบพระพุทธเจ้า จึงได้รู้ความจริงแล้วได้รับการแก้ไขจนกลับมาแตกฉานให้คนประจักษ์ได้อีกครั้งหนึ่ง
วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554
Optimistic ช่วยได้เน้อ ! ...
ช่วงสัปดาห์นี้ ไม่รู้เป็นไร...
รู้สึกเพลีย...
รู้สึกง่วง... ง่วงมากๆ...
จนต้อง "จอดรถนอนกลางวัน" ตามปั๊มน้ำมันหรือโรงแรม "หลายวัน"...
ลองทบทวนดูว่า...ช่วงนี้มีอะไรหรือเปล่า?
ปรากฏว่า...
ค้นหา "สาเหตุ" ไม่พบ...
งง!...
งงงง!...
แต่สิ่งที่ดีอยูอย่างหนึ่ง...สำคัญมากคือ...
ไม่ได้รู้สีกว่า เครียดอะไร...
หรือ ไม่ได้รู้สึกทุกข์อะไร...
เพียงแต่สงสัยนิดหน่อย...แค่นั้น...
แค่นั้นจริงๆครับ...
ก็เลยมานั่งคิดว่า...ทำไมรู้สึกอย่างนั้น?
คิดว่า น่าจะมาจาก คำนี้ล่ะครับ "Optimistic" แปลเป็นไทยก็น่าจะประมาณ "คิดแง่บวก"..
หากจะให้ลึกมากกว่านั้น...
ผมคิดว่า... จิตมันแค่รู้...รับรู้ว่าจิตมันเป็นอย่างไร...
ก็แค่ "ดูมันไปเฉยๆ" เหมือนที่พระอาจารย์บอก...
ก็เพราะลองทำหรือฝึกมาช่วงหนึ่ง...ทำให้มองโลกแง่บวกมากขึ้น...
มองว่า... "มันก็เป็นอย่างนั้น"....
"ปล่อยวางได้มากขึ้น"...เอาอะไรกับโลกมัน กันนักกันหนา...
ก็แค่นั้น...
แค่นั้นจริงๆครับ...
รู้สึกเพลีย...
รู้สึกง่วง... ง่วงมากๆ...
จนต้อง "จอดรถนอนกลางวัน" ตามปั๊มน้ำมันหรือโรงแรม "หลายวัน"...
ลองทบทวนดูว่า...ช่วงนี้มีอะไรหรือเปล่า?
ปรากฏว่า...
ค้นหา "สาเหตุ" ไม่พบ...
งง!...
งงงง!...
แต่สิ่งที่ดีอยูอย่างหนึ่ง...สำคัญมากคือ...
ไม่ได้รู้สีกว่า เครียดอะไร...
หรือ ไม่ได้รู้สึกทุกข์อะไร...
เพียงแต่สงสัยนิดหน่อย...แค่นั้น...
แค่นั้นจริงๆครับ...
ก็เลยมานั่งคิดว่า...ทำไมรู้สึกอย่างนั้น?
คิดว่า น่าจะมาจาก คำนี้ล่ะครับ "Optimistic" แปลเป็นไทยก็น่าจะประมาณ "คิดแง่บวก"..
หากจะให้ลึกมากกว่านั้น...
ผมคิดว่า... จิตมันแค่รู้...รับรู้ว่าจิตมันเป็นอย่างไร...
ก็แค่ "ดูมันไปเฉยๆ" เหมือนที่พระอาจารย์บอก...
ก็เพราะลองทำหรือฝึกมาช่วงหนึ่ง...ทำให้มองโลกแง่บวกมากขึ้น...
มองว่า... "มันก็เป็นอย่างนั้น"....
"ปล่อยวางได้มากขึ้น"...เอาอะไรกับโลกมัน กันนักกันหนา...
ก็แค่นั้น...
แค่นั้นจริงๆครับ...
วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ขอบคุณเพื่อนออนไลน์ที่มีกำลังใจดีๆต่อกัน
ผมเข้าไปสู่วงการสังคมออนไลน์มาได้ช่วงหนึ่ง
ก็รู้สึกดีครับ
บางครั้งเราเป็นคนแบ่งปัน "คำตอบ" ช่วยคนอื่นๆ
หลายครั้ง คนอื่นช่วยแบ่งปัน "คำตอบ" ให้กับเรา
ไม่เคยเจอกันจริงๆในชีวิตทั่วไป
แต่ก็รู้สึกดี(เป็นส่วนใหญ่) กับสังคมออนไลน์นี้ครับ
'Google Guru'....
ก็รู้สึกดีครับ
บางครั้งเราเป็นคนแบ่งปัน "คำตอบ" ช่วยคนอื่นๆ
หลายครั้ง คนอื่นช่วยแบ่งปัน "คำตอบ" ให้กับเรา
ไม่เคยเจอกันจริงๆในชีวิตทั่วไป
แต่ก็รู้สึกดี(เป็นส่วนใหญ่) กับสังคมออนไลน์นี้ครับ
'Google Guru'....
วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554
คำ "เชิงลึก" นี่น่าสนใจดี
คำ "เชิงลึก" นี่น่าสนใจดี
ปรกติทั่วไป เรามักจะไม่ค่อยได้พูดกันว่า ทำอะไร "เชิงลึก"
คำนี้จึงเป็นการใช้ในลักษณะการเขียนเสียมากกว่า...
ผมเองก็ใช้คำนี้อยู่บ้าง
เนื่องจากทำงานด้านกลยุทธ์
จึงต้องมองหลายมุม
ทั้งตื้น ลึก หนา บาง
ดังนั้น "เชิงลึก" จึงใช้ในการทำงานด้านี้
พอดีไปอ่านเจอคำนี้ในหนังสือพิมพ์
ก็เลยแปลกใจนิดหน่อยว่า เออ มีการใช้ด้วยแฮะ
และโดยเฉพาะดูรูปแล้วเกี่ยวกับพระและศาสนาด้วย ก็เลยค่อนข้างแปลกใจมากขึ้น
แต่พอดูในรายละเอียดแล้ว
ก็โอเคนะครับ
เพราะเป็นการนำพระซึ่งอาจจะถือได้ว่า เป็นบุคลากรสำคัญทางศาสนาในการเผยแพร่หรือรักษา
การไป "ปฏิบัติธรรมเชิงลึก" ที่อินเดียนี้
ก็น่าจะได้รายละเอียดอะไรมากขึ้น
หรือหากมองในแง่การทำงานแล้ว
พระท่านอาจจะได้มุมมองในเชิงกลยุทธ์เชิงลึกก็ได้
จึงดูแล้วน่าสนใจครับผม
อนุโมทนาครับ...
ปรกติทั่วไป เรามักจะไม่ค่อยได้พูดกันว่า ทำอะไร "เชิงลึก"
คำนี้จึงเป็นการใช้ในลักษณะการเขียนเสียมากกว่า...
ผมเองก็ใช้คำนี้อยู่บ้าง
เนื่องจากทำงานด้านกลยุทธ์
จึงต้องมองหลายมุม
ทั้งตื้น ลึก หนา บาง
ดังนั้น "เชิงลึก" จึงใช้ในการทำงานด้านี้
พอดีไปอ่านเจอคำนี้ในหนังสือพิมพ์
ก็เลยแปลกใจนิดหน่อยว่า เออ มีการใช้ด้วยแฮะ
และโดยเฉพาะดูรูปแล้วเกี่ยวกับพระและศาสนาด้วย ก็เลยค่อนข้างแปลกใจมากขึ้น
แต่พอดูในรายละเอียดแล้ว
ก็โอเคนะครับ
เพราะเป็นการนำพระซึ่งอาจจะถือได้ว่า เป็นบุคลากรสำคัญทางศาสนาในการเผยแพร่หรือรักษา
การไป "ปฏิบัติธรรมเชิงลึก" ที่อินเดียนี้
ก็น่าจะได้รายละเอียดอะไรมากขึ้น
หรือหากมองในแง่การทำงานแล้ว
พระท่านอาจจะได้มุมมองในเชิงกลยุทธ์เชิงลึกก็ได้
จึงดูแล้วน่าสนใจครับผม
อนุโมทนาครับ...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)